ทำไมเดนมาร์กจึงเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย?
เทพนิยายเดนมาร์กไม่ได้มาจากฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน ที่เล่านิทานเป็นร้อยๆเรื่องอย่างเดียว แต่ด้วยสภาพบ้านเมืองก็เหมือนกับบ้านตุ๊กตา เป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่มีการทำเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ แทบทุกเมืองในเดนมาร์กจะมีหมู่บ้านลักษณะอย่างนี้อยู่ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนก็จะสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไป โดยบ้านเรือนเหล่านี้ไม่ได้ถูกเสริมเติมแต่งขึ้นมาให้กลายเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย แต่เป็นสภาพบ้านเรือนที่ชาวเดนมาร์กเขาอาศัยอยู่กันจริงๆ ทำให้เรารู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเข้าไปอยู่ในนิทานที่สามารถสัมผัสได้เหมือนของจริง
นอกจากนี้ตรงบริเวณคาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland) ที่อยู่ทางเหนือมีเมืองเมืองหนึ่งชื่อว่า เมืองสกาเกน(Skagen) เป็นเมืองที่อยู่เหนือสุด และมีน้ำทะเล 2 สีมาบรรจบกัน ระหว่างทะเลเหนือกันมหาสมุทรแอตแลนติก และดินแดนบริเวณนี้ยังมีความสำคัญตรงที่เป็นดินแดนเหนือสุดของเดนมาร์ก ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสแล้วทรงปักธงเมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม พ.ส. 2450 หรือประมาณ 102 ปีมาแล้ว
คาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland) ที่มีน้ำทะเล 2 สีมาบรรจบกัน
เดนมาร์กเป็นดินแดนที่มีความสมดุลในเรื่องธรรมชาติ อาหาร และผู้คนอยู่ในประเทศเดียวกันหมด ทุกพื้นที่ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ด้วยความเป็นดินแดนหนึ่งในแถบสแกนดิเนเวียที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมาก ทำให้การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเดินทางไปเยือนในเดือนไหนก็รู้สึกถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิง จากหิมะขาวปกคลุมทั่วไปหมดทุกหนทุกแห่ง พอหิมะเริ่มละลายดอกไม้ก็บานแทบจะพร้อมกันในขณะที่พอเข้าสู่เดือนกรกฏาคมจะมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน หรือ Midnight Sun ให้เห็นกันเต็มๆ พอเข้าเดือนกันยายนใบไม้ก็เริ่มผลิแล้วเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ กระทั่งเข้าช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤษจิกายน หิมะก็จะเริ่มตกอีกครั้ง และมาพร้อมกับแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มาแทนพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ถึงแม้ว่ามืดและหนาว แต่ก็มีเสน่ห์มากๆ
เดนมาร์กเป็นต้นกำเนิดแห่งแดนิชเพสตรี้ (Danish Pastry) ขนมอบลไตล์เดนมาร์กที่มีลักษณะคล้ายพายแล้วมีไส้ตรงกลาง จะเป็นไส้ครีม ไส้สัปปะรด หรือไส้ผลไม้ต่างๆ ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้ พัฟฟ์ พาย หรือขนมอบทั้งหลาย ก็มีคุณค่าและอร่อยถูกปากหมดทุกอย่าง
แดนิชเพสตรี้ (Danish Pastry) ขนมอบลไตล์เดนมาร์ก
เคยได้ยินฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์กใช่ไหม ที่นี่แหละต้นกำเนิดเดิม ด้วยความที่เดนมาร์กมีดินที่อุดมสมบูรณ์ และมีแร่ธาตุเยอะการทำเกษตรกรรมจึงได้ผลดี การเลี้ยงวัวเนื้อและวัวนมก็มีคุณภาพ ฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนม อย่างเบเกอรี่ทั้งหลายจะมีชื่อเสียงและอร่อยเรียกได้ว่าเป็นดินแดนที่คนรักนมจะชอบมากๆ
อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ช็อกโกแลต ร้านที่นิยมไปทานกันบ่อยๆคือ ร้าลากลาซ (La Glace) ช็อกโกแลตอร่อยมาก เป็นช็อกโกแลตที่เข้มข้ม ผสมผงช็อกโกแลต มีวิปครีม และในเนื้อช็อกโกแลตจะมีกลิ่นของนมหอมมันในตัวเอง เป็นร้านที่เปิดมาร้อยกว่าปีแล้ว ตั้งอยู่ที่ถนนสโตรเกต หรือสตรอยก์ (Stroget) ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปชิม โดยจะมีทั้งคุณยาย คุณป้า และคุณหลานมาช่วยกันขาย ซึ่งขายดีมาก ร้านจะเปิดทุกวันเว้นวันอาทิตย์
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของเดนมาร์กคือ หลายแห่งยังมีชุมชนดั้งเดิมของชาวไวกิ้ง(Viking) อยู่ หลายคนอาจจะนึกสงสัยว่าไวกิ้งไม่ได้มีอยู่แค่ในนอร์เวย์หรือสวีเดนเท่านั้นเหรอ แต่ในความจริงแล้ว เดนมาร์กก็ยังคงมีชุมชนชาวไวกิ้งอยู่มากมายเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นนอกจากจะได้สัมผัสกับดินแดนแห่งเทพนิยายแล้ว การเดินทางมาท่องเที่ยวยังเดนมาร์กยังได้ตามรอยไวกิ้งด้วย ซึ่งชาวไวกิ้งก็ถือได้ว่าเป็นชนพื้นเมืองที่มีอิทธิพลต่อชาวเดนมาร์กในสมัยนั้นพอควร แม้เดนมาร์กจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็สามารถเข้าปกครองไอซ์แลนด์หรือกรีนแลนด์ในสมัยนั้นได้
อย่างที่เมืองรอสไคลด์ (Roskilde) ก็จะมีซากเรือไวกิ้ง ซึ่งเป็นที่มาของตำนานต่างๆ ของชาวแดนนิชไวกิ้ง (Danish Vikings) หลงเหลืออยู่และยังคงเป็นเมืองที่มีชุมชนชาวไวกิ้งดั้งเดิมอาศัยอยู่ รอสไคลด์เป็นเมืองเก่าที่มีอยู่กว่า 1,000 ปีแล้ว โดยเคยเป็นทั้งศูนย์กลางของชาวไวกิ้งและเคยเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองระบอบกษัตริย์ และที่พักของผู้นำทางศาสนา ทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารแห่งรอสไคลด์ (Roskilde Domkirke หรือ Roskilde Cathedral) สถานที่เก็บพระศพของกษัตริย์และราชวงศ์เดนมาร์ก มรดกโลกและสัญลักษณ์ชาวเดนมาร์ก
ซากเรือไวกิ้ง
มหาวิหารแห่งรอสไคลด์ (Roskilde Domkirke หรือ Roskilde Cathedral)
ทำไมสแกนดิเนเวียจึงเป็นประเทศที่ดีไซน์ของแต่งบ้านได้สวย?
ด้วยความที่ว่า เขามีฤดูหนาวอันยาวนาน ทำให้ต้องตกแต่งภายในบ้านให้สวย เพราะเขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านนานถึง 7 เดือนในเวลา 1 ปี ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาจะอยู่แต่ในบ้าน ของแต่งบ้านจึงต้องสวย ซึ่งจะทำให้ช่วงเวลาในการอยู่บ้านมีความสุข แม้ระยะเวลาจะยาวนานก็ตาม
และเหล่านี้คือเรื่องราวของเดนมาร์ก ที่หากมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวแล้ว ควรจะต้องไปชมกันให้ได้
โอกาสหน้าจะกล่าวถึง “นอร์เวย์ พระเอกตัวจริงแห่งสแกนดิเนเวีย”
ขอบคุณข้อมูลจาก มงคล กู้ประเสริฐ เรื่อง โชคดีที่ได้อ่าน และรู้ภาพจากเว็บไซย์
http://en.wikipedia.org/wiki/File:KarleboL.jpg
http://www.valkyri.org/?p=30
http://en.wikipedia.org/wiki/File:2004_07_31-L54_ubt.jpeg
http://en.wikipedia.org/wiki/Danish_(pastry)
http://en.wikipedia.org/wiki/File:Ladbyskibet.jpg
http://en.wikipedia.org/wiki/File:Roskilde_domkirke_west_fassade.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น