วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวกรุงปราก

ตอนที่แล้วผมได้พาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวย่านปราสาทปรากในสาธารณรัฐเชคกันแล้วตอนนี้ผมจะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณ Little Quarter ครับ

การเดินทางไปกรุงปราก สามารถจองตั๋วเครื่องบินสายการบิน Austrian Airlines บินไปลงกรุงปรากได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมงครึ่ง

สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณ Little Quarter

โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Church of St. Nicholas)

โบสถ์นี้เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1761 เป็นผลงานการออกแบบชิ้นเอกของสถาปนิกพ่อลูก Christopher เป็นโบสถ์สไตล์บารอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปราก จุดเด่นของโบสถ์คือการประดับประดาตกแต่งด้วยรูปปั้นและภาพเฟรสโก จุดชมภาพเฟรสโกที่ดีที่สุดในโบสถ์คือ บริเวณโดมที่มีความสูง 70 เมตร รวมถึงสามารถชมทัศนียภาพของเขตเมืองเก่าของกรุงปรากได้บนหอระฆังในช่วงเวลา 18.00 น. ของทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) จะมีการแสดงคอนเสิร์ตภายในโบสถ์ ค่าเข้าชมคอนเสิร์ต 450 คราวน์

โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Church of St. Nicholas)

โบสถ์เซนต์นิโคลัสเปิดให้เข้าชมทุกวัน เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดเวลา 09.00 – 16.00 น. และเดือนมีนาคม – ตุลาคม – เปิดเวลา 09.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม 60 คราวน์ ในส่วนของหอระฆังเปิดให้ขึ้นชมวิวทุกวัน ในเดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 10.00 – 16.00 น. ส่วนเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันเสาร์อละอาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น.

วังชแตนแบร์ก (Sternberg Palace)

วังชแตนแบร์กเริ่มก่อตั้งโดยสมาคมคนรักศิลปะในปีค.ศ. 1796 โดยสมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูงที่ยอมให้เอางานศิลปะในครอบครองของตัวเองมาจัดแสดง โดยปัจจุบันวังแห่งนี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

วังชแตนแบร์ก (Sternberg Palace)

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชม 150 คราวน์

Church of Our Lady Victorious

โบสถ์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1613 โดยจิออวานนี มาเรีย ฟิลิปปี้ (Giovanni Maria Filippi) เพื่อเป็นโบสถ์ให้กับนิกายเยอรมันลูเธอรัน (German Lutherans) ถือได้ว่าเป็นโบสถ์สไตล์บารอกแห่งแรกในกรุงปราก ในช่วงเริ่มแรกโบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า Church of the Holy Trinity แต่ภายหลังจากการต่อสู้ The Battle of the White Mountain ในปีค.ส. 1620 ชื่อโบสถ์จึงได้เปลี่ยนไปเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะครั้งนั้นและในปีค.ศ. 1628 Polyxena of Lobkovic ได้มอบหุ่นขี้ผึ้ง Infant Jesus ให้กับโบสถ์ โดยมีความเชื่อกันว่าหุ่นขี้ผึ้งนี้มีความสามารถในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิ่งศักดิ์ที่ทำให้ปรากรอดพ้นจากสงครามนับครั้งไม่ถ้วน

หุ่นขี้ผึ้ง Infant Jesus เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้ และเป็นสิ่งศักดิ์ที่ทำให้ปรากรอดพ้นจากสงคราม

สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)

เขต Little Quarter และเขตเมืองเก่านั้นเชื่อมต่อกันด้วยสะพานที่โด่งดังที่สุดในกรุงปรากอย่างสะพานชาร์ลส์ โดยสะพานนนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ตลอดราวสะพานมีประติมากรรมรูปปั้นนักบุญสไตล์บารอกที่งดงามและไม่ซ้ำกันอยู่ถึง 30 แบบ และเป็นสิ่งที่สะพานชาร์ลส์เป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดใจที่สุดของกรุงปราก

สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)

รูปปั้นนักบุญจอห์น เนโปมุก หากใครเอามือแตะที่ฐานรูปปั้นแล้วจะโชคดี

จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square)

จัตุรัสเมืองเก่าตั้งอยู่ใจกลางของจัตุรัสเมืองเก่า เป็นจุดหนึ่งของกรุงปรากที่สวยงามน่าหลงใหล สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในจัตุรัสเมืองเก่าคือศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) จุดเด่นที่สุดของศาลาว่าการเมืองเก่าคือ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่คอยตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง โดยหน้าปัดจะบอกวันเวลา โมงยาม และจักรราศีแสดงการเดินทางของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกในสุริยจักรวาล เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา สาวกของพระคริสต์จะออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบนของหอคอยจนครบ 12 องค์ เมื่อนาฬิกาหยุดส่งเสียง หน้าต่างก็จะเลื่อนปิด เป็นอย่างนี้ไปทุกชั่วโมง

หอนาฬิกาดาราศาสตร์

Municipal House

Municipal House ก่อสร้างขึ้นในค.ศ. 1905 – 1911 ภายในฮอลล์ยังเป็นที่ใช้แสดงของวงออร์เคสตราที่หมุนเวียนเปลี่ยนการแสดงอย่างสม่ำเสมอ ด้านล่างตลอดสองฝั่งทางเข้าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟ สามารถเดินทางได้โดยรถรางหมายเลข 4, 14 และ 26 และรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเหลือง

อาคารเทศบาล หรือ Municipal House สไตล์อาร์ตนูโว

Church of Our Lady before Tyn

Church of Our Lady before Tyn เป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดบริเวณจัตุรัสเมืองเก่า ด้วยโดมหอคอยแฝดสูงสีดำ โบสถ์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1365 ด้วยศิลปะแบบโกธิก ต่อมาในศตวรรษที่ 17 ภายในโบสถ์ก็ได้รับการตกแต่งใหม่ด้วยศิลปะแบบบารอก

Church of Our Lady before Tyn

จัตุรัสเวนเซสลาส (Wenceslas Square)

จัตุรัสเวนเซสลาสตั้งอยู่ใจกลางกรุงปรากและเป็นศูนย์กลางของเมือง โดยเป็นส่วนเชื่อมระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ จัตุรัสแห่งนี้เป็นถนนกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งมีอนุสาวรีย์ของนักบุญเวนเซสลาสตั้งอยู่ โดยมีฉากหลังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

อนุสาวรีย์นักบุญเวนเซสลาส

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (National Museum)

ตั้งอยู่บนถนนจัตุรัสเวนเซสลาส เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1818 เป็นอาคารสไตล์นีโอเรอเนสซองส์ที่ออกแบบโดย Josef Schulz เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาวัตถุโบราณและสิ่งต่างๆ ที่ขุดพบในบริเวณกรุงปราก เพื่อแสดงถึงเรื่องราวความเป็นมาของประเทศและการสร้างเมืองปราก

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ของกรุงปราก

โรงละครแห่งชาติ (National Theatre)

โรงละครแห่งนี้ถือเป็นอาคารที่สวยงามที่สุดในกรุงปราก เป็นอาคารที่เป็นตัวแทนของความสามัคคีในชาติ โดยโครงการก่อสร้างนั้นเริ่มขึ้นในช่วงปลายของศตวรรษที่ 19 และมีการระดมทุนจากชาวเชคทุกชนชั้น กระทั่งปีค.ศ. 1881 อาคารสไตล์นีโอเรอเนสซองส์แห่งนี้ก็ได้เปิดการแสดงครั้งแรก

โรงละครแห่งชาติ

Dancing House

ตั้งอยู่หัวมุมถนน Resslova เลียบแม่น้ำวัลตาวา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Ginger & Fred อาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวเชค สร้างขึ้นในช่วงปี 1994 – 1996 เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นที่ดูขัดแย่งกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ตัวอาคารมองดูเหมือนคู่ชายหญิงกำลังเต้นรำ

Dancing House ตัวอาคารเหมือนคู่ชายหญิงกำลังเต้นรำ

จบแย้วครับ...(^_^)


ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซย์

http://en.wikipedia.org/wiki/Charles_Bridge

http://en.wikipedia.org/wiki/Wenceslas_Square

http://en.wikipedia.org/wiki/Municipal_House

http://en.wikipedia.org/wiki/National_Museum_(Prague)

http://en.wikipedia.org/wiki/Dancing_House

________________________________________________

ตั๋วเครื่องบิน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=naenglencomputer
http://ryusky.exteen.com
http://gotoknow.org/blog/ryusky
http://learners.in.th/blog/ryusky
http://ryuskyt.blog.mthai.com

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวสาธารณรัฐเชค, กรุงปราก

สาธารณรัฐเชค (Czech)

คนโดยทั่วไปจะรู้จักสาธารณรัฐเชคในชื่อเดิมว่า ประเทศเชโกสโลวะเกีย (Czechoslovakia) เนื่องมาจากสาธารณรัฐเชคกับสาธารณรัฐสโลวักในปัจจุบันเคยเป็นเมืองคู่แฝดที่ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรป และแยกจากกันเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1993


สาธารณรัฐเชคมีเมืองหลวง ชื่อว่า กรุงปราก (Prague หรือ Praha) เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการไปเห็นมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปเพราะเสียงเล่าลือถึงความงามและเสน่ห์ของกรุงปราก ทำให้นครแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่กระหายใคร่จะเห็นความงามของยุโรปตะวันออก


การเดินทางไปกรุงปราก สามารถเดินทางโดยจองตั๋วเครื่องบินสายการบิน Austrian Airlines บินไปลงกรุงปรากได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมงครึ่ง


กรุงปราก (Prague หรือ Praha)

กรุงปรากได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในโลก มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1,200,000 คน กรุงปรากเป็นเมืองที่งดงามสถาปัตยกรรมชั้นยอกของทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นโรมาเนสก์ (Romanesque) โกธิก (Gothic) เรอเนสซองส์ (Renaissance) บารอก (Baroque) และอาร์ตนูโว (Art Nouveau) บริเวณที่เป็นเขตเมืองเก่าแก่ที่เป็นที่รวมสุดยอดศิลปกรรมอันเป็นหัวใจของปราก ได้แก่ ย่านปราสาท (Castle District), Little Quarter หรือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำวัลตาวา ย่านเมืองเก่า (Old Town) และจัตุรัสเวนเซสลาส (Wenceslas Square) รวมถึงสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี


ปราสาทปราก (Prague Castle)

ปราสาทปรากเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในสาธารณรัฐเชค เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศที่ชาวเชครักและภาคภูมิใจ


ปราสาทปรากเริ่มสร้างในศตวรรษที่ 9 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้าง เช่น พระราชวัง โบสถ์ สวนหย่อม พิพิธภัณฑ์ที่เป็นเสมือนมรดกทางวันฒนธรรมของศิลปะยุคสมัยต่างๆ รวมไว้ด้วยกัน โดยช่วงระยะเวลาหนึ่งที่นี่ได้กลายไปเป็นพระราชวังของราชวงศ์ ปัจจุบันปราสาทปรากได้กลายมาเป็นสถานที่ทำงานของประธานาธิบดี



ปราสาทปราก (Prague Castle)


มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral)

ตั้งอยู่ในย่านปราสาทปราก สร้างในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 14 โดยมีสถาปนิกเอกชาวฝรั่งเศส Matthias of Arras ชาวสเวเบีย (Swabian) เป็นผู้ออกแบบและควบคุมดูแลคนต่อมา มหาวิหารสไตล์โกธิกแห่งนี้นับได้ว่าเป็นมหาวิหารที่มีความประณีตงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ประตูแกะสลักลวดลายตระการตา กระจกสีสเตนกลาสบานสูงที่ประดับรอบวิหารล้วนยิ่งขับให้มหาวิหารแห่งนี้ดูโดดเด่น



เซนต์วิตัส มหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก



หน้าต่างของมหาวิหารเซนต์วิตัสทำจากกระจกสีสเตนกลาส


เปิดให้ชมฟรีทุกวัน เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดเวลา 09.00 - 16.00 น. ในวันจันทร์ – เสาร์ และ 12.00 – 16.00 น. ในวันอาทิตย์ ส่วนเดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดเวลา 09.00 – 17.00 น. ในวันจันทร์ – เสาร์ และ 12.00 – 17.00 น. ในวันอาทิตย์


โบสถ์เซนต์เวนเซสลาส (St. Wenceslas Chapel)

โบสถ์เซนต์เวนเซสลาสเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารเซนต์วิตัส ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปะในแบบโกธิก ภายในได้รับการตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและอัญมณีทีค่ากว่า 1,345 ชิ้น นอกจากนี้ยังเป็นที่เก็บพระศพของบรรดากษัตริย์ ในอดีต



ภายในของโบสถ์เซนต์เวนเซสลาส


พระราชวังเก่า (Old Royal Palace)

เป็นอาคารที่ต่อเนื่องมาจากโบสถ์เซนต์วิตัสสร้างขึ้นเมื่อช่วงศตวรรษที่ 9 เพื่อเป็นที่ประทับของราชวงศ์ โดยภายในแบ่งออกเป็นหลายส่วนและหลายชั้น ที่ไม่ควรพลาดเข้าไปเยี่ยมชมคือบริเวณ Vladislav Hall ที่ก่อสร้างด้วยศิลปะของยุคโกธิกที่มีเพดานเป็นลายดอกไม้และกระจกบานสูงแสนงดงาม



Vladislav Hall เพดานลายดอกไม้ศิลปะของยุคโกธิก

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 09.00 – 17.00 น. และเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดเวลา 09.00 – 16.00 น.


โบสถ์เซนต์จอร์จและคอนแวนต์ (St. George’s Basilica and Convent)

ตัวอาคารเริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ. 920 โดยเจ้าชายวราติสลาฟที่ 1 (Vratislav I) ตัวโบสถ์ด้านนอกเป็นศิลปะสไตล์บารอก แต่ภายในกลับตกแต่งด้วยด้วยสไตล์โรมาเนสก์ที่ให้บรรยากาศเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน โบสถ์เซนต์จอร์จ (St. George’s Basilica) แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นส่วนของปราสาทปรากที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์เชค และในส่วนของเซนต์จอร์จคอนแวนต์ นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมผลงานสไตล์บารอกและเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Gallery in Prague)



โบสถ์เซนต์จอร์จ (St. George’s Basilica)


ถนนสายทองคำ หรือโกลเดนเลน (Golden Lane)

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทปราก เป็นถนนสายเล็กๆ ที่ตั้งตามชื่อย่านที่ช่างทำทองเคยอาศัยในวริเวณนี้ช่วงศตวรรษที่ 17 โดยสองข้างทางบนถนนเต็มไปด้วยร้านขายของเล็กๆ สีสันสดใส เริ่มแรกนั้นถนนสายนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของทหารรักษาพระราชวังในสมัยพระเจ้ารูดอล์ฟที่ 2 (Rudolf II) จนกระทั่ง 100 ปีถัดมา ช่างทำทองได้ย้ายเข้ามาและเริ่มดัดแปลงเป็นร้านขายของและที่พักอาศัย ในช่วงศตวรรษที่ 19 พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นชุมชมแออัดที่อยู่อาศัยของพวกคนจน และเต็มไปด้วยอาชญากรรม จนช่วงปีค.ศ. 1950 เจ้าของบ้านที่แท้จริงจึงกลับมาบูรณะซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม ร้านค้าบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านหนังสือ ร้านขายเครื่องแก้วโบฮีเมียน และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ



ร้านขายของย่านถนนสายทองคำ หรือ Golden Lane


กรุงปรากยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายครับ โอกาสหน้าผมจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวอื่นๆ ให้รู้จักเพิ่มเติมครับ


ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซย์ wikipedia

http://en.wikipedia.org/wiki/Prague_Castle

http://en.wikipedia.org/wiki/St._Vitus_Cathedral

http://en.wikipedia.org/wiki/St._George


และคู่มือนักเดินทางฉบับพกพา


____________________________________________


ตั๋วเครื่องบิน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=naenglencomputer
http://ryusky.exteen.com
http://gotoknow.org/blog/ryusky
http://learners.in.th/blog/ryusky
http://ryuskyt.blog.mthai.com